สวัสดีค่า นี่เป็นกระทู้แรกเลยที่เขียนเอง (ไม่ใช่กระทู้ถามหรืออะไรเทือกนั้น) อยากจะแชร์ประสบการณ์มือถือหายแล้วได้คืน พร้อมกับสิ่งที่ควรทำเวลาทำของหายบนแท๊กซี่ค่า
เมื่อวานนี้เราไปช่วยเพื่อนชาวเยอรมันที่เพิ่งมาอยู่ไทย แถวๆลาดกระบังเลียบมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นแหล่งที่การคมนาคมค่อนข้างลำบาก สถานที่ต่างๆ/ห้างสรรพสินค้าค่อนข้างไกล ทำให้คนไม่มีรถอย่างเราต้องใช้บริการแท๊กซี่ในการไปซื้อของ+ขนของ กว่าจะเลือกซื้อของเสร็จก็เกือบสามทุ่มแล้ว
พอกลับมาถึงหมู่บ้านแล้ว ก็ขนของ และจัดของตามปกติ แต่จัดไปจัดมาเพื่อนต้องดูเบอร์โทรศัพท์เพื่อจะตั้งค่าอินเตอร์เน็ต มารู้ตัวว่ามือถือหายก็ช่วงสี่ทุ่มแล้ว (มือถือน่าจะตกในช่วงที่กำลังขนของ มัวห่วงแต่ของ)
เรากับเพื่อนก็คิดว่าถ้าตกในแท๊กซี่นี่คงไม่น่าจะได้คืนแล้ว (เรามีประสบการณ์มือถือหาย 7-8 ครั้งแล้ว โดนขโมยล้วงกระเป๋าแถวสยามเสียส่วนใหญ่)
แต่เนื่องจากยังโทรติดมีสัญญาน ก็ทำให้ยังมีความหวังอยู่ เลยวิ่งไปหา รปภ. ที่กั้นไม้อยู่หน้าหมู่บ้านว่ามีกล้องวงจรปิดไหม รปภ.บอกว่ามี แต่ถ้าจะขอดูต้องติดต่อนิติบุคคลก่อน ระหว่างนั้นก็ส่งเมสเสจไปว่า
"ขอความกรุณาผู้ที่เก๋็บมือถือนี้ได้ ช่วยโทรติดต่อเบอร์ XX-XXXXXXX ด้วยนะคะ มีค่าเสียเวลา 1000 บาท + ไปรับด้วยตนเองค่ะ" (เหมือนเอาเงินฟาดหัว แต่จริงๆมันก็ไม่ได้เยอะ ถ้าเทียบกับต้องซื้อมือถือใหม่ ก็ไม่รู้จะจูงใจยังไงแล้วง่ะ T^T )
ก็เลยต้องรอจนถึงตอนเช้าเพื่อที่จะขอเลขทะเบียนแท๊กซี่ (โชคดีอยู่อย่างนึงที่เพื่อนเราเป็นฝรั่ง ทำให้เวลาดูกล้องวงจรปิดดูได้ง่ายว่าใครเป็นใคร) ช่วงกลาองคืนก็ประกาศผ่าน จส. 100 ,*1808, 1644,1681 ทุกอย่างที่ทำได้
มีฝรั่งมาสองคันในช่วงเวลาดังกล่าว เราก็เลยจดเลขทะเบียนพร้อมสีรถ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชนของผู้ขับ แล้วโทรหากรมการขนส่งทางบก เบอร์ 1584 เพราะที่นี่จะมีเลขทะเบียนแท๊กซี่ทุกเลข ว่าสังกัดสหกรณ์หรือบริษัทไหน
จากนั้นพอได้สังกัดแล้ว ก็โทรไปหาต้นสังกัดของแท๊กซี่นั้น คันแรกอยู่ที่สหกรณ์รถแท๊กซี่สุวรรณภูมิ พอได้เบอร์คนขับมาก็โทรไปหาเค้าให้เค้าดูให้ เค้าบอกว่าไม่มี แล้วจะขับรถมาให้ดูว่าไม่มี (ลุงแกดีมาก) โทรไปอันที่สองเป็นบริษัทแท๊กซี่อาสาสมัคร ได้เบอร์มาแต่โทรไม่ได้ ยังไม่เปิดใช้บริการทั้งสองเบอร์ เราก็เห้ย ทำไงดี ใจแป้วเลย
แต่โชคช่วย เบอร์ที่หายโทรกลับมา เค้าบอกว่าเนี่ยพี่เพิ่งเห็นมือถือตกอยู่ที่พื้น (ตอนนั้น 10 โมงกว่าๆ) เมื่อวานส่งน้องแล้วกลับไปนอนบ้านเลย ดีนะที่ไม่ได้รับผู้โดยสารคนอื่นหลังจากเรา เมื่องั้นคงตามยากแล้ว พี่เค้าให้เบอร์โทรศัพท์มา บอกว่าชื่อภูริวัตน์ ขับอยู่แถวสมุทรปราการ เราก็เลยติดต่อให้เพื่อนไปรับแทน พร้อมให้สินน้ำใจตอบแทนไปตามที่เขียนไว้ เราว่า 1000 มันไม่ได้มากเลย ถ้าเทียบกับการที่เค้าเอามือถิอไปขายแล้วได้เงินมากกว่านั้นหลายเท่า เราว่าเค้าเป็นพลเมืองดีมีน้ำใจจึงโทรกลับแล้วเอามาคืนให้ เราอยากให้เมืองไทยมีคนที่ซื่อสัตย์แบบนี้เยอะๆ และสนับสนุนคนดีๆแบบนี้

ภาพแท๊กซี่พลเมืองดีค่า
แต่เราก็เชื่อว่าแท๊กซี่คงไม่เป็นแบบนี้ทุกคน เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเราควร...
1. จดเลขทะเบียนและชื่อผู้ขับ(สำคัญมากๆ) หรือไม่ก็ตอนนี้มีบริการ *1644 แท๊กซี่อุ่นใจที่เราสามารถโทรแจ้งรายละเอียด 1644 ไว้ พอลืมของหรืออะไรก็สามารถจะตามได้
2. ถ้าทราบเลขทะเบียน หรือสีของรถให้โีทรหา 1584 เพื่อขอสังกัดรถ (เบอร์นี้ใช้ร้องเรียนแท๊กซี่ได้ด้วยนะเธอว์)
3. ควรแจ้งความของหายไว้ เพื่อตำรวจจะได้ช่วยตามจากอู่ให้ (ได้ผลดีกว่าประชาชนธรรมดาโทรไปนะเออ)
4. ถ้าเขามีน้ำใจคืนให้ ก็ให้สินน้ำใจเค้าไปหน่อยนะคะ >< ไม่ใช่เค้าเอามาให้แล้วไม่มีอะไรตอบแทนเลย (คหสต.)
หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ หากผิดพลาดอะไรตรงไหนก็ขออภัยด้วยค่ะ
แชร์ประสบการณ์ แท๊กซี่พลเมืองดี ทำมือถือตกแล้วได้คืน
เมื่อวานนี้เราไปช่วยเพื่อนชาวเยอรมันที่เพิ่งมาอยู่ไทย แถวๆลาดกระบังเลียบมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นแหล่งที่การคมนาคมค่อนข้างลำบาก สถานที่ต่างๆ/ห้างสรรพสินค้าค่อนข้างไกล ทำให้คนไม่มีรถอย่างเราต้องใช้บริการแท๊กซี่ในการไปซื้อของ+ขนของ กว่าจะเลือกซื้อของเสร็จก็เกือบสามทุ่มแล้ว
พอกลับมาถึงหมู่บ้านแล้ว ก็ขนของ และจัดของตามปกติ แต่จัดไปจัดมาเพื่อนต้องดูเบอร์โทรศัพท์เพื่อจะตั้งค่าอินเตอร์เน็ต มารู้ตัวว่ามือถือหายก็ช่วงสี่ทุ่มแล้ว (มือถือน่าจะตกในช่วงที่กำลังขนของ มัวห่วงแต่ของ)
เรากับเพื่อนก็คิดว่าถ้าตกในแท๊กซี่นี่คงไม่น่าจะได้คืนแล้ว (เรามีประสบการณ์มือถือหาย 7-8 ครั้งแล้ว โดนขโมยล้วงกระเป๋าแถวสยามเสียส่วนใหญ่)
แต่เนื่องจากยังโทรติดมีสัญญาน ก็ทำให้ยังมีความหวังอยู่ เลยวิ่งไปหา รปภ. ที่กั้นไม้อยู่หน้าหมู่บ้านว่ามีกล้องวงจรปิดไหม รปภ.บอกว่ามี แต่ถ้าจะขอดูต้องติดต่อนิติบุคคลก่อน ระหว่างนั้นก็ส่งเมสเสจไปว่า
"ขอความกรุณาผู้ที่เก๋็บมือถือนี้ได้ ช่วยโทรติดต่อเบอร์ XX-XXXXXXX ด้วยนะคะ มีค่าเสียเวลา 1000 บาท + ไปรับด้วยตนเองค่ะ" (เหมือนเอาเงินฟาดหัว แต่จริงๆมันก็ไม่ได้เยอะ ถ้าเทียบกับต้องซื้อมือถือใหม่ ก็ไม่รู้จะจูงใจยังไงแล้วง่ะ T^T )
ก็เลยต้องรอจนถึงตอนเช้าเพื่อที่จะขอเลขทะเบียนแท๊กซี่ (โชคดีอยู่อย่างนึงที่เพื่อนเราเป็นฝรั่ง ทำให้เวลาดูกล้องวงจรปิดดูได้ง่ายว่าใครเป็นใคร) ช่วงกลาองคืนก็ประกาศผ่าน จส. 100 ,*1808, 1644,1681 ทุกอย่างที่ทำได้
มีฝรั่งมาสองคันในช่วงเวลาดังกล่าว เราก็เลยจดเลขทะเบียนพร้อมสีรถ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชนของผู้ขับ แล้วโทรหากรมการขนส่งทางบก เบอร์ 1584 เพราะที่นี่จะมีเลขทะเบียนแท๊กซี่ทุกเลข ว่าสังกัดสหกรณ์หรือบริษัทไหน
จากนั้นพอได้สังกัดแล้ว ก็โทรไปหาต้นสังกัดของแท๊กซี่นั้น คันแรกอยู่ที่สหกรณ์รถแท๊กซี่สุวรรณภูมิ พอได้เบอร์คนขับมาก็โทรไปหาเค้าให้เค้าดูให้ เค้าบอกว่าไม่มี แล้วจะขับรถมาให้ดูว่าไม่มี (ลุงแกดีมาก) โทรไปอันที่สองเป็นบริษัทแท๊กซี่อาสาสมัคร ได้เบอร์มาแต่โทรไม่ได้ ยังไม่เปิดใช้บริการทั้งสองเบอร์ เราก็เห้ย ทำไงดี ใจแป้วเลย
แต่โชคช่วย เบอร์ที่หายโทรกลับมา เค้าบอกว่าเนี่ยพี่เพิ่งเห็นมือถือตกอยู่ที่พื้น (ตอนนั้น 10 โมงกว่าๆ) เมื่อวานส่งน้องแล้วกลับไปนอนบ้านเลย ดีนะที่ไม่ได้รับผู้โดยสารคนอื่นหลังจากเรา เมื่องั้นคงตามยากแล้ว พี่เค้าให้เบอร์โทรศัพท์มา บอกว่าชื่อภูริวัตน์ ขับอยู่แถวสมุทรปราการ เราก็เลยติดต่อให้เพื่อนไปรับแทน พร้อมให้สินน้ำใจตอบแทนไปตามที่เขียนไว้ เราว่า 1000 มันไม่ได้มากเลย ถ้าเทียบกับการที่เค้าเอามือถิอไปขายแล้วได้เงินมากกว่านั้นหลายเท่า เราว่าเค้าเป็นพลเมืองดีมีน้ำใจจึงโทรกลับแล้วเอามาคืนให้ เราอยากให้เมืองไทยมีคนที่ซื่อสัตย์แบบนี้เยอะๆ และสนับสนุนคนดีๆแบบนี้
ภาพแท๊กซี่พลเมืองดีค่า
แต่เราก็เชื่อว่าแท๊กซี่คงไม่เป็นแบบนี้ทุกคน เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเราควร...
1. จดเลขทะเบียนและชื่อผู้ขับ(สำคัญมากๆ) หรือไม่ก็ตอนนี้มีบริการ *1644 แท๊กซี่อุ่นใจที่เราสามารถโทรแจ้งรายละเอียด 1644 ไว้ พอลืมของหรืออะไรก็สามารถจะตามได้
2. ถ้าทราบเลขทะเบียน หรือสีของรถให้โีทรหา 1584 เพื่อขอสังกัดรถ (เบอร์นี้ใช้ร้องเรียนแท๊กซี่ได้ด้วยนะเธอว์)
3. ควรแจ้งความของหายไว้ เพื่อตำรวจจะได้ช่วยตามจากอู่ให้ (ได้ผลดีกว่าประชาชนธรรมดาโทรไปนะเออ)
4. ถ้าเขามีน้ำใจคืนให้ ก็ให้สินน้ำใจเค้าไปหน่อยนะคะ >< ไม่ใช่เค้าเอามาให้แล้วไม่มีอะไรตอบแทนเลย (คหสต.)
หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ หากผิดพลาดอะไรตรงไหนก็ขออภัยด้วยค่ะ